เคล็ดลับการทำ มะม่วงแช่อิ่ม
มีอยู่ 3ข้อใหญ่ๆคือ
1. หลังจากแช่น้ำปูนใส อย่าล้างน้ำจนมากเกินไป จะทำให้มะม่วงมีรสจืดลงได้
2. การแช่มะม่วงในน้ำเชื่อมควรนำใส่ตู้เย็น เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นและฟองขณะหมัก
3. การแช่น้ำปูนใส จะทำให้มะม่วงมีความกรอบมากยิ่งขึ้น
มีอยู่ 3ข้อใหญ่ๆคือ
1. หลังจากแช่น้ำปูนใส อย่าล้างน้ำจนมากเกินไป จะทำให้มะม่วงมีรสจืดลงได้
2. การแช่มะม่วงในน้ำเชื่อมควรนำใส่ตู้เย็น เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นและฟองขณะหมัก
3. การแช่น้ำปูนใส จะทำให้มะม่วงมีความกรอบมากยิ่งขึ้น
ส่วนผสม
1.มะม่วงดิบ 1 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย 500กรัม และ 200กรัม (แยกกัน)
3.น้ำปูนใส 2 ลิตร
4.เกลือ (ใส่เท่าปูนแดง)
5.น้ำเปล่า 1 ลิตร
1.มะม่วงดิบ 1 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย 500กรัม และ 200กรัม (แยกกัน)
3.น้ำปูนใส 2 ลิตร
4.เกลือ (ใส่เท่าปูนแดง)
5.น้ำเปล่า 1 ลิตร
ขั้นตอนการทำ
1. ผสมน้ำปูนใสกับเกลือให้เข้ากัน โดยผสมเกลือเท่ากับปูนแดง ขั้นตอนนี้อาจใช้น้ำอุ่นเพื่อช่วยลดเวลาในการละลายเกลือได้
2. ทำการปอกเปลือกมะม่วง แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ก่อนจะหั่นเป็นชิ้นๆตามขนาดที่ต้องการ
3. ทำน้ำเชื่อม โดยนำน้ำเปล่า 1ลิตร ผสมกับน้ำตาล 1/2กิโลกรัม ต้มจนน้ำตาลละลายหมด
ในขั้นตอนนี้ควรใช้ไฟกลาง (เพื่อไม่ให้ไหม้) เมื่อต้มเสร็จพักไว้ให้เย็น
4. ในขณะที่รอน้ำเชื่อมเย็น ให้ผสมน้ำปูนใสกับเกลือให้เข้ากัน (วิธีผสมน้ำปูนใส)
5. หลังผสมน้ำปูนใสกับเกลือเสร็จแล้ว นำมะม่วงดิบที่หั่นและล้างน้ำให้สะอาดแล้ว
นำไปแช่น้ำปูนใสที่เตรียมไว้ ประมาณ 1-3 ชั่วโมง ตามแต่ความต้องการ
6. เมื่อแช่ครบกำหนดเวลาตามต้องการแล้ว นำมะม่วงไปล้างน้ำสะอาด และผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
(*เคล็ดลับ: อย่าล้างน้ำจนมากเกินไป จะทำให้มะม่วงมีรสจืดลงได้)
7. หลังจากน้ำเชื่อมเย็นตัวแล้ว ให้นำมะม่วงจากขั้นตอนที่6ใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และตามด้วยน้ำเชื่อม โดยให้น้ำเชื่อมพอท่วมมะม่วง ปิดภาชนะทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1วัน
(*เคล็ดลับ: การแช่มะม่วงในน้ำเชื่อมควรนำใส่ตู้เย็น เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นและฟองขณะหมัก)
8. เมื่อผ่านไป 1วัน นำมะม่วงออกมาจากน้ำเชื่อม ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
9. ในขณะที่รอสะเด็ดน้ำ ให้นำน้ำเชื่อมเดิมตั้งไฟปานกลาง และใส่น้ำตาลเพิ่มประมาณ 200กรัม ต้มจนน้ำตาลละลาย แล้วนำน้ำเชื่อมพักไว้ให้เย็น
10. หลังจากน้ำเชื่อมเย็นตัวแล้ว ให้นำมะม่วงจากขั้นตอนที่6 เทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และตามด้วยน้ำเชื่อม โดยให้น้ำเชื่อมพอท่วมมะม่วง ปิดภาชนะทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1วัน (ครั้งที่ 2)
1. ผสมน้ำปูนใสกับเกลือให้เข้ากัน โดยผสมเกลือเท่ากับปูนแดง ขั้นตอนนี้อาจใช้น้ำอุ่นเพื่อช่วยลดเวลาในการละลายเกลือได้
2. ทำการปอกเปลือกมะม่วง แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ก่อนจะหั่นเป็นชิ้นๆตามขนาดที่ต้องการ
3. ทำน้ำเชื่อม โดยนำน้ำเปล่า 1ลิตร ผสมกับน้ำตาล 1/2กิโลกรัม ต้มจนน้ำตาลละลายหมด
ในขั้นตอนนี้ควรใช้ไฟกลาง (เพื่อไม่ให้ไหม้) เมื่อต้มเสร็จพักไว้ให้เย็น
4. ในขณะที่รอน้ำเชื่อมเย็น ให้ผสมน้ำปูนใสกับเกลือให้เข้ากัน (วิธีผสมน้ำปูนใส)
5. หลังผสมน้ำปูนใสกับเกลือเสร็จแล้ว นำมะม่วงดิบที่หั่นและล้างน้ำให้สะอาดแล้ว
นำไปแช่น้ำปูนใสที่เตรียมไว้ ประมาณ 1-3 ชั่วโมง ตามแต่ความต้องการ
6. เมื่อแช่ครบกำหนดเวลาตามต้องการแล้ว นำมะม่วงไปล้างน้ำสะอาด และผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
(*เคล็ดลับ: อย่าล้างน้ำจนมากเกินไป จะทำให้มะม่วงมีรสจืดลงได้)
7. หลังจากน้ำเชื่อมเย็นตัวแล้ว ให้นำมะม่วงจากขั้นตอนที่6ใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และตามด้วยน้ำเชื่อม โดยให้น้ำเชื่อมพอท่วมมะม่วง ปิดภาชนะทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1วัน
(*เคล็ดลับ: การแช่มะม่วงในน้ำเชื่อมควรนำใส่ตู้เย็น เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นและฟองขณะหมัก)
8. เมื่อผ่านไป 1วัน นำมะม่วงออกมาจากน้ำเชื่อม ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
9. ในขณะที่รอสะเด็ดน้ำ ให้นำน้ำเชื่อมเดิมตั้งไฟปานกลาง และใส่น้ำตาลเพิ่มประมาณ 200กรัม ต้มจนน้ำตาลละลาย แล้วนำน้ำเชื่อมพักไว้ให้เย็น
10. หลังจากน้ำเชื่อมเย็นตัวแล้ว ให้นำมะม่วงจากขั้นตอนที่6 เทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และตามด้วยน้ำเชื่อม โดยให้น้ำเชื่อมพอท่วมมะม่วง ปิดภาชนะทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1วัน (ครั้งที่ 2)
———————————————————————————————–
เท่านี้ก็ได้มะม่วงแช่อิ่ม ที่ทั้งกรอบ หอม หวานและอร่อยไว้ทานกันที่บ้าน หรือจะนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ เป็นอาชีพเสริมก็น่าสนใจทีเดียว
ปล. ถ้าหากทำทานกินเอง แล้วต้องการความรวดเร็วและลดขั้นตอนยุ่งยาก ให้ข้ามขั้นตอนต้มน้ำเชื่อม
เปลี่ยนเป็นนำน้ำตาลทรายคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ภาชนะปิดฝา แช่ไว้ในตู้เย็น 1-2ชั่วโมง ก็สามารถทานได้แล้วครับ
รับรองง่ายดายแถมอร่อยอีกด้วย
เปลี่ยนเป็นนำน้ำตาลทรายคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ภาชนะปิดฝา แช่ไว้ในตู้เย็น 1-2ชั่วโมง ก็สามารถทานได้แล้วครับ
รับรองง่ายดายแถมอร่อยอีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น